แฟนเรือใบเฮ “แมนซิตี้”คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก!

“แมนเชสเตอร์ ซิตี้” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 อย่างเป็นทางการ

kubet

ปิดฉากฟุตบอลพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021/2022 แมนฯซิตี้ เฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า คว้าแชมป์ไปครอง หยุดความหวัง 4 ถ้วยลิเวอร์พูล ส่วนสเปอร์สได้เฮ ไปเตะบอลUCL ขณะที่โซนตกชั้น ลีดส์ รอด เบิร์นลีย์ร่วง

      “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 อย่างเป็นทางการแล้ว หลัง “อาร์เซนอล” บุกไปพ่าย “น็อตติงแฮม ฟอเรสต์” เรือใบสีฟ้าสุดโหดบวกพรีเมียร์ลีกเพิ่มเป็นสมัยที่ 7 ของสโมสร ป้องกันแชมป์ได้ 3 ปี ติดต่อกัน และคว้าแชมป์ได้ 5 จาก 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา 

        วันที่ 21 พฤษภาคม 2566 หลังทัพปืนใหญ่ “อาร์เซนอล” บุกพ่าย “น็อตติงแฮม ฟอเรสต์” 1-0 ประตู ทำให้ลงเตะไปแล้ว 37 นัด มี 81 คะแนน เท่ากับว่าเหลือแข่งอีกเพียง 1 นัด แต่ตามหลัง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” อยู่ 4 คะแนน ทำให้ เรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022-23 ในทันที  แทงบอลออนไลน์kubet

       การคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 7 และเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 9 โดยมีสถิติสุดโหดครองเเชมป์เป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน และทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” ยังสามารถคว้าแชมป์ได้ 5 จาก 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งนี้ ซิตี้ จะชูถ้วยรางวัลหลังจากพวกเขาพบกับเชลซีในวันอาทิตย์นี้

       ทัพเรือใบสีฟ้ายังมีโอกาสคว้า 3 แชมป์ จากนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย “เอฟเอ คัพ” กับ คู่ปรับร่วมเมืองอย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” และ “แชมเปี้ยนส์ ลีก” กับ “อินเตอร์ มิลาน” โดยมีคิวเตะในเดือนมิถุนายน

 

kubet

 

       “อิลคาย กุนโดกัน” ซึ่งยิงได้ 4 ประตูจาก 2 เกมลีกหลังสุด กล่าวกับ BBC SPORT ว่า พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งนั่นจะบอกทุกอย่างเกี่ยวกับความสำเร็จนี้

         การคว้าถ้วยรางวัลนี้ 3 สมัยติดต่อกันและ 5 สมัยใน 6 ปีนั้นช่างน่าเหลือเชื่อ คุณภาพและความสม่ำเสมอนั้นช่วยสรุปสิ่งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยึดมั่นและทำให้มั่นใจว่าสโมสรจะมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จต่อไป “มันเป็นฤดูกาลที่จะไม่มีวันลืม” กัปตันทีมซิตี้ กล่าว

ปรากฏการณ์ยุคปัจจุบัน

      แมนเชสเตอร์ซิตี้ เป็นเพียงสโมสรที่ 5 ในอังกฤษที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุด 3 สมัยติดต่อกัน ต่อจาก ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (1924-26), อาร์เซนอล (1933-35), ลิเวอร์พูล (1982-84) และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทำได้สองครั้งภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1999-01 และ 2007-09)   การที่ แมนฯซิตี้ ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัยใน 6 ฤดูกาล ทีมสุดท้ายที่ทำได้คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1996 ถึง 2001 โดยปีศาจแดงยังคว้าแชมป์ 7 รายการใน 9 ฤดูกาลระหว่างปี 1993-2001 เช่นเดียวกับ 5 แชมป์ใน 7 ฤดูกาลระหว่างปี 2007-2013

       ก่อนหน้านั้นก็มีลิเวอร์พูลในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และต้นทศวรรษ 1980 ที่มีช่วงเวลาแห่งความสำเร็จในลีกที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นสิ่งที่ ซิตี้ ทำได้จึงถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ในยุคปัจจุบัน

kubet

           นอกจากนี้ยังเป็นครั้งที่ 3 ที่ กวาร์ดิโอลา สามารถคว้าแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน โดยทำได้ใน ลา ลีกา สเปน กับบาร์เซโลนา (2009-11) และในบุนเดสลีกา เยอรมัน กับบาเยิร์น มิวนิก (2014-16)

 

kubet

“ฮาลันด์” จอมถล่มประตู

     แรงผลักดันสู่ความสำเร็จนั้นส่วนหนึ่งมาจากสถิติการทำประตูที่น่าทึ่งของ “เออร์ลิง ฮาลันด์” ที่ย้ายจาก “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” มาร่วมทัพเรือใบเมื่อซัมเมอร์ปีที่แล้ว

     กองหน้าชาวนอร์เวย์วัย 22 กะรัต ทำไปถึง 52 ประตูจาก 48 เกมในการแข่งขันทุกรายการ โดยยิงไป 36 ประตูในเกมลีก  ที่สำคัญเจ้าตัวยังทำลายสถิติการทำประตูของพรีเมียร์ลีกในหนึ่งฤดูกาล แซงหน้า “แอนดี้ โคล” และ “อลัน เชียร์เรอร์” ซึ่งทำไป 34 ประตูเมื่อครั้งพรีเมียร์ลีกยังเตะ 42 นัด   ขณะที่แมนฯซิตี้มีคิวเตะนัดที่ 36 คืนนี้(21 พ.ค.) โดยจะเล่นในบ้านเจอกับเชลซี เวลา 22.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

kubet

ประวัติสโมสร

         สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี ( Manchester City Football Club) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แมนซิตี เป็นสโมสรฟุตบอลของประเทศอังกฤษที่ตั้งอยู่ ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ปัจจุบันแข่งขันในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1880 ในชื่อ เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก ใน ค.ศ. 1887 และเปลี่ยนชื่อเป็นแมนเชสเตอร์ซิตีใน ค.ศ. 1894 มีสนามเหย้าคือสนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง โดยสโมสรใช้งานสนามแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 หลังจากที่เคยใช้สนามเมนโรดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1923 สโมสรใช้สีฟ้าเป็นชุดเหย้ามาตั้งแต่ ค.ศ. 1894
แมนเชสเตอร์ซิตีชนะเลิศการแข่งขันลีกสูงสุด 8 สมัย, เอฟเอคัพ 6 สมัย, ลีกคัพ 8 สมัย, เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 6 สมัย และ ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย

       แมนเชสเตอร์ซิตีเข้าร่วมฟุตบอลลีกใน ค.ศ. 1892 และคว้ารางวัลแรกของสโมสรด้วยการชนะเลิศเอฟเอคัพในปี 1904 ช่วงเวลาที่สโมสรเริ่มประสบความสำเร็จคือทศวรรษ 1960 ซึ่งสโมสรชนะเลิศทั้งลีก, ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ, เอฟเอคัพ และลีกคัพภายใต้การคุมทีมของโจ เมอร์เซอร์และมัลคอม อัลลิซัน สโมสรเริ่มเข้าสู่ช่วงตกต่ำหลังจากที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1981 โดยเคยตกชั้นจนถึงลีกระดับที่สามมาแล้ว พวกเขาเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 2001–02 และได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ฤดูกาล 2002–03

      ใน ค.ศ. 2008 กลุ่มทุนอาบูดาบีได้ซื้อสโมสรด้วยมูลค่า 210 ล้านปอนด์เพื่อลงทุนในด้านการซื้อผู้เล่นและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกของสโมสร พวกเขาได้ลงทุนเงิน 150 ล้านปอนด์เพื่อพัฒนาเอทิฮัตแคมปัสในย่านตะวันออกของแมนเชสเตอร์  และถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งยุคแห่งความสำเร็จของสโมสร เมื่อพวกเขาชนะเลิศเอฟเอคัพใน ค.ศ. 2011 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 2012 ซึ่งถือเป็นการคว้าแชมป์เอฟเอคัพ และแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 ตามด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งใน ค.ศ. 2014 ต่อมา ภายใต้การคุมทีมของเปป กวาร์ดิโอลา สโมสรชนะเลิศพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017–18 จนกลายเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่เก็บคะแนนในลีกได้ถึง 100 คะแนนในฤดูกาลเดียว และในฤดูกาลถัดมา พวกเขาชนะเลิศถ้วยรางวัลถึงสี่รายการ จนกลายเป็นทีมฟุตบอลชายทีมแรกของอังกฤษที่ชนะเลิศทริปเปิลแชมป์ในประเทศ
ต่อมา สโมสรชนะเลิศพรีเมียร์ลีกอีกสองฤดูกาลติดต่อกันใน ค.ศ. 2021 และ 2022 ถือเป็นแชมป์สมัยทีสี่ในยุคของกวาร์ดิโอลา รวมทั้งเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรกใน ค.ศ. 2021

     แม้ว่าแมนเชสเตอร์ซิตีจะยังไม่เคยชนะเลิศการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แต่หากนับถึงฤดูกาล 2022–23 พวกเขาได้เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าวถึง 12 ฤดูกาลติดต่อกัน และผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้ 10 ฤดูกาลติดต่อกัน นอกจากนี้ ในฤดูกาล 2021–22 สโมสรถูกจัดอยู่ในอันดับสามตามค่าสัมประสิทธิ์ของสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของพวกเขา แทงบอลออนไลน์

     แมนเชสเตอร์ซิตีเป็นสโมสรฟุตบอลที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลกในฤดูกาล 2020–21 ด้วยรายรับกว่า 664.9 ล้านยูโร และใน ค.ศ. 2021 ฟอบส์ รายงานว่าแมนเชสเตอร์ซิตีเป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่หกของโลกด้วยมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซิตีฟุตบอลกรุ๊ปซึ่งเป็นเจ้าของสโมสร เป็นบริษัทโฮลดิ้งของบริเตนที่มีมูลค่าสูงถึง 3.73 พันล้านปอนด์ (4.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019  หลังจากที่มีการขายหุ้นร้อยละ 10 ให้แก่บริษัทลงทุนซิลเวอร์เล้ก  แทงบอลkubet

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และยุคทองของสโมสร (2008–ปัจจุบัน)

     สโมสรกลับไปประสบปัญหาการเงินอีกครั้ง เป็นเหตุพิจารณาให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเข้าซื้อกิจการและดำรงตำแหน่งประธานสโมสร แต่เนื่องจากปัญหาคดีความทางการเมืองของทักษิณทำให้การบริหารสโมสรต้องหยุดชะงัก  กลุ่มทุนอาบูดาบีได้ซื้อสโมสรต่อด้วยมูลค่า 210 ล้านปอนด์ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นหนึ่งในทีมมหาเศรษฐีแห่งวงการฟุตบอลยุโรปมานับแต่นั้น ในฤดูกาล 2008–09 สโมสรทำการเซ็นสัญญากับผู้เล่นค่าตัวแพงอย่าง โรบินยู จากเรอัลมาดริดด้วยราคา 32.5 ล้านปอนด์ แต่ผลงานของสโมสรยังไม่เป็นที่ประทับใจนักแม้จะผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศถ้วยยูฟ่าคัพ ทำให้ทีมทำการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยจำนวนเงินกว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งแลกมาด้วยผู้เล่นชื่อดังได้แก่ แกเร็ท แบร์รี, โรเก ซานตา ครูซ, โกโล ตูเร, เอ็มมานูเอล อาเดบายอร์, การ์โลส เตเบซ และ โจเลียน เลสคอตต์  ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009 ฮิวส์ถูกแทนที่โดย โรแบร์โต มันชีนี ซึ่งพาทีมจบอันดับห้าในพรีเมียร์ลีกได้สิทธิ์แข่งขันยูฟ่ายูโรปาลีก

     ภายใต้การคุมทีมของมันชินี สโมสรก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสโมสรชั้นนำของอังกฤษ พวกเขาเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพใน ค.ศ. 2011 เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และเอาชนะสโตกซิตี 1–0 และยังชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบรองชนะเลิศ  คว้าแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ห้า และยังเป็นการกลับมาชนะเลิศถ้วยรางวัลครั้งแรกในรอบกว่า 35 ปี นับตั้งแต่ได้แชมป์ลีกคัพใน ค.ศ. 1976 รวมทั้งได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1968  โดยจบฤดูกาล 2010–11 ด้วยอันดับสามในพรีเมียร์ลีก

ตราสโมสรและสี

      แมนเชสเตอร์ซิตีเคยเปลี่ยนรูปแบบตราสโมสรมาสามครั้งก่อนที่จะใช้ตราสัญลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ตราสัญลักษณ์แรกเริ่มเปิดตัวใน ค.ศ. 1970 การออกแบบมีที่มาจากเอกสารของสโมสรที่ปรากฏใน ค.ศ. 1960 โดยตราเป็นรูปวงกลมและมีลักษณะคล้ายตราในปัจจุบัน โดยมีชือสโมสรอยู่ภายในวงกลม ต่อมาใน ค.ศ. 1972 ด้านล่างของตราสโมสรมีการเพิ่มรูปดอกกุหลาบสีแดงซึ่งสื่อถึงการเป็นสัญลักษณ์ของมณฑลแลงคาสเชอร์

       ในบางโอกาสที่แมนเชสเตอร์ซิตีลงแข่งขันฟุตบอลถ้วยรอบชิงชนะเลิศ สโมสรจะใช้ชุดแข่งขันพิเศษ คือสวมเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจในการเป็นตัวแทนของเมืองในการแข่งขันรายการสำคัญ โดยเริ่มธรรมเนียมปฏิบัตินี้มาตั้งแต่สมัยที่ชุดแข่งขันของพวกเขายังไม่มีตราสโมสรปรากฏบนเสื้อ  สโมสรได้ละเว้นการปฏิบัติตามธรรมเนียมเป็นครั้งแรกในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ ค.ศ. 2011 เมื่อพวกเขาเปลี่ยนไปใส่เสื้อซึ่งเป็นตราสโมสรตามปกติ แต่มีการนำตราสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์ไปรวมกับแถบสีขาวดำในหมายเลขเสื้อด้านหลังของผู้เล่นแทน

kubet

        มีการเปลี่ยนแปลงตราสโมสรอีกครั้งใน ค.ศ. 1997 เนื่องจากตราแบบเดิมไม่สามารถจดทะเบียนรับรองเครื่องหมายการค้าได้ โดยตราสโมสรในครั้งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากตราอาร์มของเมืองแมนเชสเตอร์ และยังมีการเพิ่มรูปโล่ลงไปหน้ารูปนกอินทรีสีทอง ซึ่งนกอินทรีเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์มาตั้งแต่ ค.ศ. 1958 เพื่อสื่อถึงการเติบโตทางอุตสาหกรรมการบินของเมือง แต่ในปัจจุบันเมืองแมนเชสเตอร์ได้เลิกใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวแล้ว โดยภายในโล่ของตราสโมสรนั้นมีรูปเรือใบอยู่ด้านบนของตราซึ่งเป็นตัวแทนของคลองเรือเมืองแมนเชสเตอร์ (Manchester Ship Canal) ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองแมนเชสเตอร์และทะเลไอริช และแถบสีขาวซึ่งมีลักษณะเป็นแนวทแยงสามเส้นนั้นหมายถึงแม่น้ำหลักสามสายในแมนเชสเตอร์ ได้แก่: แม่น้ำเออร์เวลล์, แม่น้ำเอิร์ก และ แม่น้ำเมดล็อก ด้านล่างของตราสโมสรจะปรากฏคำขวัญว่า “Superbia in Proelio” หรือ “Pride in Battle” ในภาษาละติน และยังประดับด้วยดาวสีทองสามดวงอยู่ด้านบนสุดของตรา แทงบอลkubet

        ต่อมาในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2015 สโมสรได้ประกาศว่ามีแนวคิดที่จะออกแบบตราสโมสรใหม่อีกครั้งหลังจากที่ได้รับเสียงวิจารณ์จากแฟน ๆ ว่าไม่พอใจกับตราสัญลักษณ์ที่ใช้อยู่  และหลังจากหารือกัน สโมสรได้แถลงในเดือนต่อมาว่าจะมีการเปิดตัวตราสัญลักษณ์ใหม่ โดยจะยังคงยึดรูปแบบเดิมคือใช้วงกลมเป็นหลัก แต่ครั้งนี้จะมีการเพิ่มความคลาสสิกมากขึ้น  และตราสัญลักษณ์ใหม่นี้เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2015  โดยยังยึดรูปแบบวงกลมเป็นหลัก มีรูปเรือใบและดอกไม้สีแดงของแลงคาสเชอร์อยู่ด้านในเช่นเดิม และมีตัวเลข “1894” ปรากฏอยู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของตรา ซึ่งตัวเลข 1894 นี้หมายถึงปี ค.ศ. ที่สโมสรเปลี่ยนชื่อมาเป็น
แมนเชสเตอร์ซิตี และสโมสรได้ใช้ตราสัญลักษณ์นี้มาถึงปัจจุบัน  แทงบอลออนไลน์

kubet

 

      สีชุดเหย้าประจำสโมสรคือ สีฟ้า และ สีขาว ในขณะที่ชุดทีมเยือนแบบดั้งเดิมของสโมสรนั้นมีทั้งสีแดงและสีดำ (ใช้มาตั้งแต่ช่วงทษวรรษ 1960) อย่างไรก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงสีของชุดทีมเยือนหลายครั้งตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ที่มาในการใช้สีฟ้าเป็นสีประจำสโมสรนั้นไม่แน่ชัด แม้จะมีหลักฐานบางแหล่งอ้างว่าสโมสรเริ่มสวมชุดสีฟ้ามาตั้งแต่ ค.ศ. 1892 หรืออาจจะก่อนหน้านั้น แต่ในหนังสือ Famous Football Clubs – Manchester City ซึ่งตีพิมพ์ในทศวรรษ 1940 และได้รับความเชื่อถือมากกว่าระบุว่า เดิมที เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) สวมชุดแข่งสีดำและสีแดงสด (Scarlet) ในช่วงก่อตั้ง ต่อมาใน ค.ศ. 1884 สโมสรใช้ชุดสีดำซึ่งมีตรารูปกางเขนสีขาวบนเสื้อสื่อถึงการเป็นตัวแทนของคริสตจักร ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีฟ้าใน ค.ศ. 1894 และใช้สีฟ้าเป็นสีประจำมาถึงทุกวันนี้  และชุดทีมเยือนซึ่งเป็นสีดำและสีแดงนั้นมาจากแนวคิดของ มัลคอล์ม อัลลิสัน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสีประจำสโมสรเอซีมิลาน สโมสรดังแห่งอิตาลี โดยอัลลิสันต้องการสร้างความฮึกเหิมให้แก่ผู้เล่นเพื่อจะได้ประสบความสำเร็จอย่างเอซีมิลาน และวิธีของอัลลิสันได้ผล เมื่อแมนเชสเตอร์ซิตีชนะเลิศเอฟเอคัพในฤดูกาล 1969–70 หลังจากที่สโมสรห่างหายความสำเร็จยาวนาน ตามด้วยการชนะเลิศลีกคัพและยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ แม้สีแดงและสีดำจะสื่อถึงอารมณ์ที่ตรงข้ามกับสีฟ้าซึ่งเป็นสีหลักของสโมสร และหลายปีที่ผ่านมาสโมสรมีการเปลี่ยนสีเสื้อทีมเยือนหลายครั้งนอกเหนือจากสีดำและแดง เช่น สีขาว, สีม่วง และสีน้ำเงิน

 

สนามแข่ง

    สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์หรือที่รู้จักในชื่อสนามกีฬาเอทิฮัดมีความจุ 53,000 ที่นั่ง (เปลี่ยนชื่อตั้งแต่ปี 2011 ด้วยเหตุผลด้านผู้สนับสนุน) อยู่ในสัญญาเช่า 200 ปีจากสภาเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสนามเหย้าของสโมสรตั้งแต่ปลายฤดูกาล 2002–03 เมื่อสโมสรย้ายจากสนามเมนโรด โดยใช้งบประมาณ 30 ล้านปอนด์เพื่อแปลงพื้นที่เป็นสนามฟุตบอล สนามถูกเพิ่มที่นั่งอีกชั้นหนึ่งรอบ ๆ และสร้างอัฒจันทร์ทิศเหนือขึ้นใหม่ นัดแรกที่สโมสรลงเล่นในสนามแห่งใหม่นี้ คือการชนะบาร์เซโลนาในการแข่งขันกระชับมิตร 2–1 ต่อมาผู้บริหารทำการเพิ่มที่นั่งจำนวน 7,000 ที่นั่งบนอัฒจันทร์ฝั่งใต้เพื่อให้เสร็จสมบูรณ์ทันเวลาสำหรับการเริ่มต้นฤดูกาล 2015–16 ความจุปัจจุบันอยู่ที่ 55,097 อัฒจันทร์ทางทิศเหนือในชั้นที่สามได้รับการอนุมัติการวางแผนและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในปี 2017 โดยเมื่อปรับปรุงเสร็จ จะขยายความจุของสนามเป็น 61,000 ที่นั่ง  ในปัจจุบัน สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ ถือเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับห้าในพรีเมียร์ลีก และเป็นอันดับสิบในสหราชอาณาจักร

kubet

City of Manchester Stadium (Etihad Stadium)

      ระหว่าง ค.ศ. 1880 ถึง 1887 สโมสรได้ย้ายสนามเหย้ามากถึง 5 แห่ง เนื่องจากเหตุผลด้านสภาพที่ตั้งและการเงินที่ยังไม่แน่นอนนัก ก่อนจะใช้ สนามไฮด์โรด (Hyde Rode) เป็นเวลากว่า 36 ฤดูกาล ก่อนที่จะเกิดเหตุเพลิงไหม้เป็นผลให้แมนเชสเตอร์ซิตีต้องย้ายสู่สนามเมนโรดใน ค.ศ. 1923 ซึ่งสนามเมนโรดเคยมีฉายาว่าเป็น “เวมบลีย์แห่งภาคเหนือ” เนื่องจากความสวยและบรรยากาศในสนาม

kubet

เครื่องบินของสายการบินเอทิฮัดลายแมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งเอทิฮัดเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรมาตั้งแต่ ค.ศ. 2009

 

     KUBET ของเรามีระบบที่ยอดเยี่ยมที่รองรับทั้งระบบ IOS และ Android  โดยเฉพาะ แทงบอลออนไลน์ขั้นต่ำ1บาท  แทงบอลออนไลน์ KUBET  แทงบอลที่  KUBET มีทั้งบอลเต็ง บอลสเต็ป บอลสูง-ต่ำ บอลแฮนดิแคป  แทงบอลที่ KUBET เริ่มเดิมพันออนไลน์ตั้งแต่ 2 คู่ถึง 10 คู่ โดยบอลสเต็ป(พาเล่ย์)   แทงบอลออนไลน์ที่ KUBET เริ่มต้น เดิมพันขั้นต่ำเพียง1บาท และบอลเต็ง or บอลเดี่ยวเริ่มต้นเดิมพันที่ขั้นต่ำเพียง 10 บาท so ท่านสามารถเลือกเดิมพันกับ KUBET ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ไม่ซับซ้อนและ  KUBET สมัครง่าย  also สามารถดูถ่ายทอดสดบอล ทุกลีกได้แบบคมชัดระดับ Full HD  in addition  แทงบอลพรีเมียร์ลีก แทงบอลยูโรป้า ลีก ไทยลีก แทงบอลออนไลน์KUBET ค่าน้ำดี  เคลียร์บิลทันทีหลังรู้ผล  furthermore  และยังสามารถขายบิลได้ก่อนหรือระหว่างการแข่งขัน  หากคุณสนใจ แทงบอลออนไลน์ KUBET ก็สามารถ สมัครได้เลย สมัครได้ตลอด 24 ชั่วโมง  สมัครแทงบอล KUBET ตอนนี้รับเลยโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่และของขวัญสมนาคุณมากมาย 

 

 

Add friend

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.